head_banner
การขาดวิตามินในสุนัข

1 (1) (1)

การขาดวิตามินเอ:

1. Sick sleeper: สุนัขต้องการวิตามิน A มาก หากกินอาหารสีเขียวไม่ได้เป็นเวลานาน หรืออาหารต้มมากเกินไป แคโรทีนจะถูกทำลาย หรือสุนัขที่เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังจะมีอาการ ไวต่อโรคนี้

2. อาการ: อาการหลัก ได้แก่ ตาบอดกลางคืน กระจกตาหนาและตาแห้งขุ่น ผิวแห้ง ขนไม่เรียบร้อย ขาดสมดุล มอเตอร์ผิดปกติอาจเกิดภาวะโลหิตจางและความล้มเหลวทางกายภาพ

3. การรักษา: น้ำมันตับปลาหรือวิตามินเอสามารถรับประทานได้ 400 IU/กก. ของน้ำหนักตัวต่อวันควรมีวิตามินเอเพียงพอในอาหารของสุนัขตั้งท้อง สุนัขที่ให้นมบุตร และลูกสุนัข0.5-1 มล. ของวิตามินสามตัว (รวมถึงวิตามิน A, D3, E) สามารถฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือเข้ากล้ามเนื้อหรือเพิ่มวิตามิน Drop Triple ในอาหารสุนัขเป็นเวลา 3 ถึง 4 สัปดาห์

1 (2)

การขาดวิตามินบี:

1. เมื่อขาดไทอามีนไฮโดรคลอไรด์ (วิตามิน B1) สุนัขอาจมีอาการทางระบบประสาทที่ไม่สามารถแก้ไขได้สุนัขที่ได้รับผลกระทบมีลักษณะเฉพาะจากการลดน้ำหนัก เบื่ออาหาร อ่อนเพลียทั่วไป สูญเสียการมองเห็นหรือสูญเสียบางครั้งการเดินไม่มั่นคงและสั่น ตามด้วยอัมพฤกษ์และอาการชัก

2. เมื่อขาด riboflavin (วิตามิน B2) สุนัขที่ป่วยจะเป็นตะคริว โลหิตจาง หัวใจเต้นช้า และล้มลง รวมทั้งโรคผิวหนังแห้งและ steatodermatitis

3. เมื่อขาดนิโคตินาไมด์และไนอาซิน (วิตามินพีพี) โรคลิ้นดำเป็นลักษณะเฉพาะของมัน กล่าวคือ สุนัขป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลียในปาก และเยื่อเมือกในช่องปากแดงตุ่มหนองหนาแน่นจะเกิดขึ้นที่ริมฝีปาก เยื่อบุกระพุ้งแก้ม และปลายลิ้นเคลือบลิ้นให้หนาขึ้นและมีสีเทาอมดำ (ลิ้นสีดำ)ปากมีกลิ่นเหม็นและน้ำลายที่มีกลิ่นเหม็นไหลออกมาและบางส่วนมีอาการท้องร่วงเป็นเลือดการรักษาภาวะขาดวิตามินบีควรขึ้นอยู่กับสภาพของโรค

เมื่อขาดวิตามิน B1 ให้สุนัขรับประทาน thiamine hydrochloride 10-25 มก./ครั้ง หรือ thiamin 10-25 มก./ครั้ง และเมื่อขาดวิตามิน B2 ให้รับประทานไรโบฟลาวิน 10-20 มก./ครั้งเมื่อวิตามิน PP ไม่เพียงพอ นิโคตินาไมด์หรือไนอาซินสามารถรับประทานได้ที่ 0.2 ถึง 0.6 มก./กก. ของน้ำหนักตัว

1 (3)


เวลาโพสต์: 10 ม.ค. 2565